ลอยกระทงกลางน้ำโขง สักการะ พระธาตุกลางน้ำ

Unseen Thailand ในแบบฉบับของผม เที่ยวลอยกระทง กลางแม่น้ำโขง ลอยสักการะ พระธาตุกลางน้ำ สัมผัสชีวิตเรียบง่าย ชาวหนองคาย

จารึกที่พระธาตุกลางน้ำจำลอง | พระธาตุเมืองหล้าหนอง



พระธาตุเมืองหล้าหนอง

...ในตำนานพระอุรังคธาตุได้กล่างถึงเมืองสาเกต (101ประตู) เกิดบั้งไฟ
ระเบิดเกิดเป็นหนองน้ำใหญ่คือ หนองพลาญชัย เป็นหนองน้ำแรก กลุ่ม
น้าเลี้ยงพ่อนมและผู้คนซึ่งนำดดยเจ้าสังขวิชัย อพยพมาตั้งถิ่นฐานใหม่ที่บริเวณ
ที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง ซึ่งเดิมมีหนองน้ำใหญ่และได้ตั้งชื่อว่า "เมืองหล้าหนอง"
แปลว่า หนองน้ำใหม่หรือสุดท้าย โดยถือนิมิตหนองพลาญชัยเป็นแห่งแรก
เมื่อพระพุทธศาสนาแผ่มา พระมหาสังฆรักขิต ได้บวชให้เป็นพระมหาสังขวิชัย
จนสำเร็จเป็นพระอรหันต์ และได้สร้างพระธาตุเมืองหล้าหนองขึ้นประดิษฐาน
พระบรมสารีริกธาตุฝ่าพระบาทขวา 9 องค์ในอุโมงค์หิน เมื่อ พ.ศ.2109
พระเจ้าไชยเชษฐาธิราชที่ 1 มหาราชแห่งอาณาจักรล้านช้าง ได้สร้างเจดีย์ครอบ
ก่ออิฐถือปูนฐานกว้าง 15.80 เมตร สูง 33 เมตร ศิลปะแบบล้านช้าง ต่อมา
แม่น้ำโขงได้ไหลกัดเซาะฝั่งขวาถึงมหาธาตุเจีย์จนทรุดเอียงในวันศุกร์ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 9
พ.ศ. 2390 เมื่อตั้งเมืองหนองคาย พ.ศ. 2371 แล้ว 19 ปี และกระแสน้ำ ได้กัดเซาะตลิ่ง
พังทลายไปอีกจนห่างจากฝั่งขวาแม่น้ำโขง ประมาณ 180 เมตร ในปัจจุบัน

หน่วยอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมและศิลปกรรมท้องถิ่น จังหวัดหนองคาย
(โรงเรียนปทุมเทพวิทยาคาร) โดยอาจารย์วินิจ พลพิทักษ์ หัวหน้าหน่วยฯ อาจารย์สิทธิพร
ณ นครพนม กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ได้ติดต่อ นายภิรมย์ จีนะเจริญ อดีตรองอธิบดีกรมศิลปากร
ซึ่งมีภริยาเป็นชาวหนองคาย ให้ส่งนายเอิบเปรม วัชรากร หัวหน้าหน่วยโบราณคดีใต้น้ำ
และคณะมาสำรวจ พระธาตุองค์นี้ เมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2539 ผลการสำรวจพบว่า

1. องค์พระธาตุล้มตะแคงไปตามกระแสน้ำด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ และแตกหัก
ออกเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกคือ มุมฐานที่พ้นผิวน้ำ และที่จมอยู่ ความกว้างของฐาน
รวมกัน 15.80 เมตรพอดี ทั้งยังสร้างด้วยอิฐถือปูนทั้งองค์ต่างกับเจดีย์อื่น ซึ่งก่ออิฐถือปูน
เป็นกรอบ แล้วอัดด้วยดินให้แน่น

2. ส่วนที่จมอยู่ใต้น้ำต่อจากบัลลังก์ ถึงปลายที่หักยาว 732 เซนติเมตร มีลวดลายปูนปั้นประดับ
คาดว่าเป็นเรือนธาตุส่วนกลาง

3. ส่วนยอดพระธาตุไม่สามารถสำรวจได้ เพราะมีเนินทรายสูงกลบทับ เนื่องจากการหมุน
ย้อนวนกลับของกระแสน้ำและทราย ปะทะฐานองค์พระธาตุจนทับถมเป็นเนินสูงมาเป็นเวลา
ช้านาน

มร.อองรี มูโอต์ นักสำรวจชาวฝรั่งเศส รับงานราชภูมิศาสตร์สมาคมอังกฤษ
ได้เดินทางขึ้นมาสำรวจแม่น้ำโขงและวาดภาพนครวัด นครธม ประเทศกัมพูชา เผยแพร่
ให้ชาวโลกได้รับรู้ ได้ขึ้นมาเมืองหนองคายเมื่อปี พ.ศ. 2404 วาดภาพพระธาตุเมืองหล้าหนอง
ที่กำลังเอียงทรุดตั้งแต่ปี พ.ศ. 2390 เอาไว้ ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2410 มร.ฟรังซิส กรานิเยร์
ชาวฝรั่งเศส ได้นำภาพเผยแพร่ให้ชาวโลกได้ทราบ รวมตลอดทั้งภาคอีสานเหนือ และ
ประเทศลาวในยุคนั้น

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น